โควิด-19 กับโลกดิจิทัลที่เราอยู่
บทความนี้แปลจากบทความที่เขียนขึ้นโดย คุณอริยะ พนมยงค์
นี่เป็นครั้งแรกของผมกับการเขียนบทความใน Medium ในช่วงสถานการณ์ไม่ปกติ และก็น่าจะเหมือนกันกับทุก ๆ คนในตอนนี้ที่กำลัง ทำงานที่บ้าน (Work from home) ไม่ออกไปไหน ซึ่งพวกเราใช้เวลาส่วนมาก (มากจนเกินไป) อยู่บนโลกสังคมออนไลน์
สิ่งที่ทำให้ผมต้องมาเขียนบทความเป็นครั้งแรกนี้ ก็มาจากโพสต์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับ Covid-19 ไม่ว่าจะเป็นบทความ การคาดเดาเรื่องต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นหลังสถานการณ์ Covid-19 ถ้าพูดตามตรงก็คือ มันก็คือการแสดงความคิดเห็นของแต่ละคน ซึ่งมันไม่ได้ผิด ไม่ได้ถูก แต่ต้องไม่ลืมว่า โลกโซเชียล มันคือโลกความเป็นจริง แต่ มันเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง หรือซีกเดียวของโลกใบนี้เท่านั้นเอง
สำหรับผมที่มาจากโลกของเทคโนโลยีและดิจิทัล ผมแค่หวังว่าจะให้มันเป็นการเตือนทุกคน ว่าการอยู่ในโลกสังคมออนไลน์ เราควรต้องระวัง และมีสติ ในการที่จะอยู่ในโลกโซเชียลเหล่านั้น อย่าคิดว่าทั้งโลกจะคิดแบบเราทุกอย่าง เพียงเพราะเพื่อน 500 คนใน Facebook ของคุณคิดเหมือนคุณ เพราะนี่มันอาจะเป็นแค่บางส่วนในชีวิตของคุณ เป็นแค่ตัวแทนของคุณและเพื่อนของคุณบน Facebook เท่านั้น
สิ่งที่คุณเห็นบนหน้า Feed ในแต่ละวัน ก็มาจากเพื่อน 500 คนของคุณนั่นแหละ และอะไรก็ตามที่เฟซบุ๊ก (Facebook algorithm) แสดงออกมาให้คุณ ก็มาจากการเชื่อมต่อของคุณ ประวัติของคุณ พฤติกรรมต่าง ๆ ของคุณ และรวมถึงการตั้งค่าของคุณเองด้วย
“โลก” ที่คุณเห็นนี้ มันถูกออกแบบมาจากตัวคุณเอง ซึ่งมันไม่ได้เป็นตัวแทนคนไทยทั้ง 68 ล้านคน คุณมีเพื่อนใน Facebook ที่เป็นคนไทยกี่คน? ที่ต้องเดินทางกลับต่างจังหวัด เมื่อรัฐบาลประกาศว่าจะปิดเมือง เพราะพวกเขาไม่มีทางอื่นให้เลือก หรือ คุณมีเพื่อนใน Facebook กี่คนที่ได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาทจากรัฐบาล และยังมีอีกกี่คนที่ไม่ได้? หรือ มีเพื่อนใน Facebook กี่คนที่ต้องตกงาน? คุณจะเข้าใจว่าเขาคิดและความรู้สึกของคนเหล่านั้นได้อย่างไร ถ้าเขาไม่ได้เป็นเพื่อนใน Facebook ของคุณ คุณเข้าใจความหมายของผมใช่ไหม?
ในช่วงสถานการณ์ที่ยากลำบากขนาดนี้ พวกเราส่วนใหญ่ถือว่าโชคดีนะ ที่พวกเรายังรอดปลอดภัยจากไวรัส Covid-19 ยังมีเงินใช้ มีสถานที่ที่ดีพอให้อยู่อาศัยในช่วงปิดเมือง มีของเล่นให้เล่นฆ่าเวลา มีอาหารดี ๆ ให้ทานที่บ้านกับครอบครัว และอื่นๆ
มันไม่มีอะไรผิดหลอกบนโลกออนไลน์ แต่อยากให้คุณระวังไว้ว่า สิ่งที่คุณเห็นบนโลกออนไลน์มันไม่ได้เป็นตัวแทนของโลกทั้งใบ เพราะคุณและตัวคุณเองถูกป้อนข้อมูลต่าง ๆ ด้วย โพสต์ คอมเมนต์ บทความ ความคิดเห็น และบ่อยครั้งที่จะเป็นความเห็นเพียงแค่ด้านเดียว และผมมั่นใจอีกอย่างว่าในตอนนี้ มีคนสมัครสมาชิก Netflix มากขึ้นเรื่อย ๆ ในกลุ่มคนบน Feed ของคุณ แต่เชื่อผมเถอะ ยังมีอีกหลายคนมาก ประมาณ 10 ล้านคน ที่เขาไม่สามารถสมัครสมาชิก Netflix เพื่อดู Itaewon class หรือดูซี่รีส์อื่นๆได้ เพราะก็ยังมีคนที่กำลังลำบากอย่างหนักอีกเยอะ ที่คุณอาจไม่รู้
แล้วทำไมผมถึงมาเขียนบทความนี้เป็นบทความแรก เพราะผมต้องการให้ Covid-19 หายไปในเร็ววันแบบที่ทุกคนปรารถนา ผมชอบที่จะเห็นคนคิดบวก เราจะผ่านมันไปด้วยกัน ด้วยการปรับตัวเองเพื่อให้อยู่รอดอย่างเข้มแข็งและแข็งแรง การยอมรับโลกดิจิทัล และเรื่องใหม่ที่จะกลายเป็นเรื่องปกติ (New Normal)
ขอบอกอีกครั้งนะครับว่า พวกเราอยู่ในกลุ่มผู้โชคดีนะ ผมเชื่อว่าความจริงก็คือความจริง และมันจะแตกต่างกันมากสำหรับพวกเราส่วนใหญ่ เช่น หลายธุรกิจจะตาย ร้านอาหาร ร้านค้า ธุรกิจขนาดเล็ก หรือแม้กระทั่งธุรกิจขนาดใหญ่ จะไม่สามารถอยู่รอดได้เกินกว่า 2 เดือน จะมีคนตกงานอีกกว่า 7 ล้านคน (คิดเป็น 18.5% ของแรงงานทั้งหมดในประเทศ)
และเมื่อสถานการณ์ Covid-19 สิ้นสุดลง แน่นอนว่าการใช้ชีวิตจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หรือที่หลายคนจะเรียกว่า New normal แต่มันจะไม่เหมือนที่เคยเป็นมา บางคนอาาจะคิดว่าสามารถทำงานที่บ้านได้ตลอด เอาทุกอย่างไปอยู่บนโลกของดิจิทัลได้ แต่ความจริงมันไม่ใช่ มันจะกลายเป็นโลกที่ยากลำบาก เช่น ตอนนี้ตกงานอยู่ เมื่อ Covid-19 หมดไป ก็ไม่ใช่ว่าจะกลับมามีงานทำทันที ไม่ใช่ว่าทุกคนจะกลับไปกินเที่ยว ใช้จ่าย กันได้เหมือนเดิมทันที เราควรจะต้องเตรียมตัวให้ดี ใช้เงินให้ระมัดระวัง เพราะการคาดการณ์ GDP ในประเทศไทย จะติดลบอยู่ที่ -6.7% ต้องมาดูความเป็นจริงและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ให้ดี ไม่เช่นนั้น เราอาจจะไม่พร้อมที่จะต้องเจอสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป
“หวังว่าจะเจอสิ่งที่ดีที่สุด และ เตรียมตัวเพื่อรับมือกับสิ่งที่แย่ที่สุด”
Covid-19 มันเลวร้าย แต่สิ่งที่จะตามมา มันจะเลวร้ายได้มากถึง 3,900 เท่า และ Covid-19 จะส่งผลกระทบกับ 2 ล้านคนทั่วโลก ณ เวลาที่ผมเขียนบทความนี้อยู่แต่ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจและเศรษฐกิจที่ถดถอยนั้น จะส่งผลกระทบต่อ 7.8 พันล้านคน ใช่แล้ว! โลกจะไม่เหมือนเดิมแน่นอน แต่จะไม่ใช่ในแบบที่คุณคิดไว้หรอกครับ
อย่าเข้าใจผิดว่าโลกสังคมออนไลน์ มันจะเทียบเท่ากับโลกทั้งใบนี้ และที่สำคัญก็คือ อยากให้ใช้โลกโซเชียลอย่างระวัง และมีสติ สิ่งที่เราเห็น มันไม่ถูกและไม่ได้มีอะไรผิดเสมอไป ตราบใดที่เรารู้ตัวว่า ก็ยังมีคนอื่นที่อาจจะคิดไม่เหมือนเรา
